7ps คืออะไร ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากคลื่นลูกแรกจนถึงปัจจุบัน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจนเรียกกันหน้าหลังได้ กลยุทธ์หรือเทคนิคเดิมๆ ที่ผู้ประกอบการใช้อาจไม่ได้ผลเท่ายุคก่อน – ช่วงโควิด นักการตลาดต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ มาเสริมทัพด้วย 7Ps Marketing Mix ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ มาดูปัจจัยแต่ละอย่างที่นักการตลาดต้องวิเคราะห์กัน ส่วนประสมทางการตลาด มีอะไรบ้าง
7Ps เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่พัฒนาโดย Philip Kotler ผู้ก่อตั้ง Marketing 3.0 สำหรับใช้ในธุรกิจการบริการ ส่วนประสมทางการตลาดหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ 4P ที่คุ้นเคย ประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้: ผลิตภัณฑ์ ราคา สถานที่ โปรโมชั่น บุคคล หลักฐานทางกายภาพ และกระบวนการที่ครอบคลุมธุรกิจในภาคบริการ จากนั้นเพิ่มสาม P: คน กระบวนการ และหลักฐานทางกายภาพ 7p มีอะไรบ้าง
7Ps Marketing Mix / 7ps คืออะไร
7ps คืออะไร ‘7Ps Marketing’ เป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดวิเคราะห์ปัจจัยสามประการที่นอกเหนือไปจากกลยุทธ์การตลาดแบบ 4Ps แบบเดิมๆ โดยพิจารณาจากผลิตภัณฑ์ ราคา โปรโมชั่น และสถานที่เท่านั้น 7P คือบุคคล กระบวนการ และหลักฐานทางกายภาพ 4P คือผลิตภัณฑ์ เน้นแต่หลังโควิด-19 ผู้บริโภคยังต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ นอกจากบริการที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจแล้ว ยังต้องรวม 7P เพื่อดึงดูดผู้บริโภคด้วย โดยเฉพาะในธุรกิจบริการ กลยุทธ์ 7Ps เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรมี มาดูความสำคัญของแต่ละคนกัน เริ่มจาก 4Ps Marketing และ 7Ps Marketing 7p มีอะไรบ้าง
ความแตกต่างระหว่าง 4Ps และ 7Ps Marketing
ก่อนจะพูดถึงว่า 7ps คืออะไร มาพูดถึง 4P กันก่อน พูดง่ายๆ สิ่งเหล่านี้เรียกรวมกันว่า “ส่วนประสมทางการตลาด” หรือ “องค์ประกอบทางการตลาด” เป็นสิ่งจำเป็นและจำเป็นสำหรับธุรกิจและนักการตลาดเกือบทุกรุ่น สำหรับ 4P เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นสินค้า (Products) ซึ่งประกอบด้วยสินค้า ราคา โปรโมชั่น และสถานที่ต่างๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่จะทำให้สินค้าเข้าถึงใจผู้บริโภคไปพร้อม ๆ กัน แตกต่างและโดดเด่น ออกจากสินค้าของคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการสร้างสรรค์ไอเดียให้เป็นจริง แน่นอนว่า 4P ที่กล่าวมาข้างต้นครอบคลุมการผลิตสินค้าและบริการแล้ว ทำไมยังมี 7Ps ออกมาอีก?
4ps and 7ps of marketing เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและปัจจัยต่างๆ รอบตัวผู้บริโภค ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคแตกต่างกันไปตามความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่คงอยู่ แต่ความต้องการบริการที่ดีและประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจที่พวกเขาคาดหวังจากแบรนด์นั้นสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น นักการตลาดจึงขยาย 4P ของตนออกเป็น 3 ปัจจัยเพิ่มเติมเป็น 7P ซึ่งจะทำให้ทั้งกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดีต่อผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่าจำเป็นอย่างมากกับ Digital Marketing ส่วนประสมทางการตลาด มีอะไรบ้าง
ประเภทของ 7Ps Marketing มีอะไรบ้าง
7p มีอะไรบ้าง เริ่มต้นจาก 4Ps แรกแล้วค่อยขยายไปพูดถึงอีก 3 ตัวที่เป็นสมาชิกของ 7Ps กัน 7psมีอะไรบ้าง
1. Product
ส่วนประสมทางการตลาด มีอะไรบ้าง P ตัวแรกที่เราจะพูดถึงคือ Product ซึ่งไม่ได้หมายความเพียงแค่นี้ ‘สินค้าและบริการ’ เพียงอย่างเดียว เพราะเป็นการผสมผสานคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่สามารถสื่อถึงลูกค้าว่าเป็น ‘แบรนด์’ วิธีใช้ปัจจัยแรกนี้ นักการตลาดจำเป็นต้องได้รับข้อมูลเชิงลึกและจดบันทึกว่าใครคือลูกค้าของตน คุณมีความชอบแบบไหน? พฤติกรรมการบริโภคเป็นอย่างไร? อีกรูปแบบหนึ่งคือการศึกษาผลตอบรับจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าและบริการของแบรนด์ในอดีต เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นและน่าพอใจมากขึ้น
การวางแผนผลิตภัณฑ์ออนไลน์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของแบรนด์คุณ มีสองสิ่งที่ควรคำนึงถึง: Core Identity ซึ่งเป็นพื้นฐานของผลิตภัณฑ์และบริการที่ ‘ต้องการ’ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า และ Extended Identity ซึ่งเป็นส่วนขยายหรือประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลประจำตัวหลักก่อน ตัวอย่าง ปัจจัยที่ครอบคลุมคำว่า Product นั่นก็คือ
- คุณภาพของสินค้าและบริการ
- การแสดงออกถึงความเป็นแบรนด์
- รูปภาพสินค้า
- การใช้งานของสินค้า
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้งาน
- บริการ Customer Service เป็นต้น
2. Price
7psมีอะไรบ้าง ราคาหรือการกำหนดราคาเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง พีจะอ้างอิงนโยบายราคาของแต่ละบริษัทเป็นแบบอย่างในการกำหนดราคาสินค้าและบริการที่จะขายในตลาดของบริษัทใช่ไหม? แต่ราคาก็ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคด้วย เพราะพวกเขาพบราคาที่อยู่ในช่วงที่พวกเขายินดีจ่าย
ดังนั้นหากบริษัทกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้สูงควบคู่ไปกับคุณภาพของสินค้าและบริการที่เป็นเลิศเหมาะสมกับราคาที่ลูกค้ากำหนด ลูกค้ายินดีจ่ายตามเกณฑ์ราคานี้ แต่ถ้าสินค้าและบริการดูเหมือนไม่มีคุณภาพหรือเหมาะสมกับเกณฑ์ราคา ลูกค้าอาจรู้สึกไม่เต็มใจที่จะจ่าย เช่น เมื่อสั่งซื้อออนไลน์และต้องเสียค่าขนส่งเพิ่มเติมจากราคารวมของสินค้าทั้งหมด ในกรณีนี้ พวกเขาอาจเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อเสนอคุณสมบัติการจัดส่งฟรีให้กับลูกค้า อาจสร้างความเต็มใจและความพึงพอใจมากขึ้น Product Factor ส่งผลต่อรูปแบบการกำหนดราคาและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างไร? ตัวอย่าง ปัจจัยที่ครอบคลุมคำว่า Price นั่นก็คือ
- Positioning ของแบรนด์
- ส่วนลดของสินค้าและบริการ
- วิธีการหรือช่องทางการชำระเงิน
- ฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า เป็นต้น
3. Promotion
ปัจจัยที่สามคือ Promotion หมายถึงวิธีที่แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าและบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ซึ่งเป็นที่ที่บริษัทต่างๆ ต้องวางแผนเชิงกลยุทธ์โดยพิจารณาจากการแบ่งส่วนลูกค้าที่พวกเขามีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน
ปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ ไม่ใช่ว่าทุกข้อความจะเข้าถึงผู้ชมจากทุกช่องทาง และแน่นอนว่าในโลกของการตลาดดิจิทัล การตลาดช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณจำเป็นต้องรู้เครื่องมือสื่อสารที่จะขยาย ‘เสียง’ ของแบรนด์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
4. Place
ปัจจัยที่จะช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์การตลาดแบรนด์ของคุณคือที่ตั้ง เป็นที่ที่คุณแจกจ่ายผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้ลูกค้าของคุณสามารถเข้าถึงได้ หรือร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ทุกมุมถนน แต่นั่นเป็นเพียงแนวทางออฟไลน์ แต่ตามที่กล่าวไว้ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกค้า คุณสามารถวางผลิตภัณฑ์และบริการของคุณในที่ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากหน้าจอโทรศัพท์ ก็จะทำให้จิตใจสงบลงเล็กน้อย
4ps and 7ps of marketing อีกสิ่งหนึ่งคือคุณอาจมีเว็บไซต์แบรนด์ของคุณเองพร้อมกับหน้าเว็บไซต์ช็อปปิ้งที่ลูกค้าสามารถเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นได้ แต่จะดีกว่าหรือไม่ที่คุณจะเผยแพร่ผลิตภัณฑ์และบริการของคุณผ่านไซต์บุคคลที่สามที่ทั้งคุณและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าค้นหาได้ง่าย ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ Watsons หรือ Gowabi ไซต์ความงามที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายในบริเวณนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มการรับรู้ของลูกค้า แพลตฟอร์มนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณทั้งหมด หรือไซต์ B2C หรือ C2C เช่น Shopee และ Lazada ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ต่อไปนี้คือ 3 Ps ถัดไปที่ขยายจาก 4P แรก: ผู้คน กระบวนการ และหลักฐานทางกายภาพ ทั้งสามมีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในแง่ของ ‘บริการ’ และรักษาความภักดีของลูกค้า
5. People
P แรกคือ People ซึ่งเป็นปัจจัยที่รวมวิธีที่พนักงานของบริษัทสื่อสารหรือโต้ตอบกับลูกค้าและผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ ขณะทำธุรกรรมหรือบริการก่อนและหลังการขายให้กับลูกค้า ในตลาดดิจิทัล การมีส่วนร่วมหรือความช่วยเหลือของพนักงานอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการตอบกลับอีเมลหรือการตอบกลับข้อความบนเว็บไซต์ แม้แต่ Chatbots ก็มีผลกระทบเช่นกัน
4ps and 7ps of marketing หลายบริษัทอาจมีหน้าคำถามที่พบบ่อยอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าลูกค้าแต่ละรายมีความแตกต่างกัน แน่นอน คำตอบเหล่านั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา หรือคุณเคยเจอสถานการณ์ที่คุณต้องการการสนับสนุนจากบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยทันทีหรือไม่? แต่ไม่สามารถติดต่อฉันได้แม้ว่าหมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทจะแสดงขึ้นก็ตาม แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าอย่างแน่นอน หรือถ้าแย่กว่านั้นก็คือ Peer-to-peer หรือคำพูดจากปากต่อปาก (ในเรื่องแย่ๆ) อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า
6. Process
7p คืออะไร ขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการหรือวิธีการหรือกระบวนการที่บริษัทและองค์กรใช้ในการทำงานเพื่อเข้าถึงและใช้กลไกทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของตน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการเข้าถึงลูกค้าโดยใช้บริการลูกค้า กระบวนการนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าของคุณได้ดีขึ้นและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เพราะคุณสามารถระบุเส้นทางของลูกค้าได้ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อดูว่าลูกค้าต้องการอะไรในแต่ละขั้นตอนและบริษัท มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้ลูกค้าไม่เสียความประทับใจในแบรนด์?
ตัวอย่างเช่น เวลาที่ดีที่สุดในการตอบคำถามของลูกค้าที่เข้ามาคือเมื่อใด หลังจากที่ลูกค้าคลิกเพื่อซื้อบางอย่าง หน้า Landing Page ควรไปที่ใด ตัวอย่างเช่น การมุ่งเน้นที่การออกแบบหรือ UI/UX ของเว็บไซต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญทีเดียว บวกกับความเร็วและคุณภาพของการบริการลูกค้าของคุณ
7. Physical Evidence
7psมีอะไรบ้าง ในที่สุด เราก็มาถึงชั้นสุดท้าย หลักฐานทางกายภาพ ซึ่งในการแปลตามตัวอักษรเป็นหลักฐานที่จับต้องได้หรือตรวจสอบได้ แต่ในบริบทของส่วนประสมทางการตลาด สิ่งนี้ครอบคลุมถึงประสบการณ์ที่จับต้องได้ของลูกค้ากับบริษัทหรือผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท อะไรคือประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่บริษัทสามารถนำเสนอได้? ลองนึกถึงเวลาที่คุณเลือกซื้อตั๋วเครื่องบิน บางคนอาจชอบประสบการณ์ที่ได้รับจากสายการบินนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสหรืองานบริการดีๆจากเจ้าบ้าน บริการน้ำและอาหารตลอดเที่ยวบิน น้ำหนักกระเป๋า โดยไม่ต้องชาร์จ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดภาพลักษณ์ของแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก แม้ว่าราคาจะสูงไปหน่อย แต่ก็รู้สึกคุ้มค่า
7p คืออะไร ในกรณีของ Digital Marketing แบรนด์ใส่ใจในการสร้างเว็บไซต์ที่สวยงาม ใช้งานง่าย จ่ายง่าย ราบรื่น และรวมถึงการสนับสนุนลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น FAQ, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล หรือแม้แต่ Chatbot ที่ลูกค้าถามได้ 24/ 7. เป็นการดีที่จะดึงดูดลูกค้าทั้งเก่าและใหม่มาสู่แบรนด์อีกครั้ง
สรุป 7ps ส่วนประสมทางการตลาด
7ps คืออะไร ส่วนประสมการตลาด 7Ps (7Ps Marketing Mix) 7p คืออะไร ที่อธิบายไว้ในที่นี้มีความสำคัญต่อวิธีการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ เลือกผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและปรับให้เข้ากับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการดำเนินการ การรู้จากประสบการณ์จึงเป็นการสร้างแบรนด์ที่ดี และการชนะใจลูกค้าโดยเฉพาะทางออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป